ฟรี ร้านค้า ออนไลน์ ads 18.224.246.203 : 26-04-24 21:42:28   
สมัครสมาชิกใช้งานติดต่อโฆษณาสินค้าแยกตามหมวดร้านค้าสมาชิกกระดานสนทนากระดานสนทนา
บริษัท เอินเวย์กรุ๊ป จำกัด

  หมวดสินค้าของเรา            
  
 
ความงามและสุขภาพ

Tag / คำค้น

  ปวดต้นคอ/Herbina
  โรคหัวใจ,ยาจีน
  แสดงสินค้าทั้งหมด
มีอะไรอยู่ในตะกร้าบ้างแล้ว คลิ๊กเลย!!!


อาการหลอดเลือดหัวใจตีบ
ร้าน : บริษัท เอินเวย์กรุ๊ป จำกัด 

อาการหลอดเลือดหัวใจตีบ-จุกเสียด แน่น เจ็บหน้าอก เหนื่อยง่าย อย่าไว้วางใจ

ร้าน : บริษัท เอินเวย์กรุ๊ป จำกัด


สินค้า

อาการหลอดเลือดหัวใจตีบ

หมวด เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย ความงาม และสุขภาพ > ความงามและสุขภาพ
รหัสสินค้า 1 vote เพิ่มคะแนน ให้กับสินค้า อาการหลอดเลือดหัวใจตีบ จุกเสียด แน่น เจ็บหน้าอก เหนื่อยง่าย อย่าไว้วางใจ  ในกรณีประทับใจสินค้า คะแนน Vote ปัจจุบัน 422  vote ลดคะแนน ให้กับสินค้า อาการหลอดเลือดหัวใจตีบ จุกเสียด แน่น เจ็บหน้าอก เหนื่อยง่าย อย่าไว้วางใจ  ในกรณีไม่ประทับใจสินค้า คะแนน Vote ปัจจุบัน 422
คำอธิบาย จุกเสียด แน่น เจ็บหน้าอก เหนื่อยง่าย อย่าไว้วางใจ
ราคา 1.00 บาท
รายละเอียด

หลอดเลือดหัวใจตีบเกิดจากโคเลสเตอรอลไปสะสมตามผนังหลอดเลือด จนกลายเป็นคราบตะปุ่มตะป่ำทำให้หลอดเลือดหัวใจบริเวณนั้นตีบแคบลง ส่งผลให้เลือดไปหล่อเลี้ยงหัวใจไม่เพียงพอ คราบไขมันที่อยู่ในหลอดเลือดนั้นมีลักษณะเหมือนแผล ร่างกายจึงพยายามปกปิดแผลด้วยการสร้าง “ฝา” แข็งๆ ขึ้นมาปิดไว้เหมือนสะเก็ดที่แผล หากคราบไขมันหยุดการเจริญเติบโตฝานี้ก็จะปิดได้สนิท ก้อนไขมันจึงมีโอกาสแตกออกน้อย แต่ถ้าคราบไขมันยังหนาตัวขึ้นเรื่อยๆ ฝาปิดนี้ก็จะบางลงและเปราะแตกได้ง่าย ทำให้อนุภาคของไขมันที่อยู่ข้างในกระจายสู่กระแสเลือด ซึ่งจะไปกระตุ้นกระบวนการแข็งตัวของเลือดในร่างกาย ทำให้เกิดลิ่มเลือดไปอุดตันหลอดเลือดหัวใจอย่างรวดเร็วและส่งผลให้เกิดหัวใจพิบัติ ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ทั้งชายและหญิง ในปัจจุบันพบว่าโรคหลอดเลือดหัวใจตีบในกลุ่มคนอายุ 35-45 ปีมีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี เนื่องจากต้องดำเนินชีวิตแบบเร่งด่วนและพึ่งพาอาหารสำเร็จรูปที่มีไขมันสูง โรคหลอดเลือดหัวใจตีบจึงไม่เป็นโรคของผู้สูงอายุอีกต่อไป

 

   อาการของหลอดเลือดหัวใจตีบ   

          ในกรณีหลอดเลือดหัวใจยังตีบไม่มาก คุณอาจไม่รู้สึกอาการใดๆ อาการต่างๆ จะเกิดขึ้นต่อเมื่อหลอดเลือดหัวใจตีบไปมากกว่า75% อาทิ

  • เจ็บหน้าอก รู้สึกปวด แน่น จุกเสียดบริเวณหน้าอก ลำคอ ท้องส่วนบนหรือต้นแขน ในขณะเครียดหรือออกกำลัง เมื่อได้พักอาการมักจะดีขึ้น
  • หายใจไม่เต็มปอด อาการหายใจลำบากและเหนื่อยง่ายเกิดขึ้นได้ไม่ว่าในขณะออกแรง พักผ่อนหรือนอนหลับ
  • บวม อาการบวมบริเวณข้อเท้ามักเกิดขึ้นในเวลาค่ำ
  • ใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว แรงหรือผิดจังหวะ
  • อ่อนเพลีย รู้สึกไม่มีแรง เหนื่อยง่ายผิดปกติ
  • เป็นลม หมดสติอย่างเฉียบพลันหรือรู้สึกศีรษะเบาหวิว

          แต่อย่างไรก็ตาม จากสถิติทางคลินิกพบว่า หัวใจพิบัติมักเกิดขึ้นโดยไม่มีอาการเตือนล่วงหน้า โดยเฉพาะในผู้หญิงเจ้าตัวไม่เคยรู้มาก่อนว่าเป็นโรคหัวใจ แต่อยู่ๆ ก็ล้มลง หายใจไม่ออก ต้องนำส่งโรงพยาบาลหรืออาจเสียชีวิตทันที ผู้ป่วยกลุ่มนี้จึงโชคร้ายกว่าผู้ป่วยกลุ่มที่มีอาการเตือน จึงต้องมีการบำบัดและเอาใจใส่ตนเองอย่างต่อเนื่อง

 

   ปัจจัยเสี่ยงที่คุณเปลี่ยนแปลงไม่ได้   

  • กรรมพันธุ์ : ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ติดตัวมากับคุณตั้งแต่เกิด มีความผิดปกติทางพันธุกรรมหลายอย่างที่จะทำให้โคเลสเตอรอลในเลือดสูง
  • ประวัติครอบครัว : คุณอาจมีความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจตีบเพิ่มขึ้น ถ้าหากว่าปู่ พ่อหรือพี่ชายของคุณเป็นโรคหัวใจก่อนอายุ 55 ปี หรือว่ายาย แม่หรือพี่สาวคุณเป็นโรคหัวใจก่อนอายุ 65 ปี
  • อายุและเพศ : ผู้ชายมีโอกาสเป็นโรคหัวใจมากกว่าผู้หญิง โดยเฉลี่ยผู้ชายจะเป็นโรคหัวใจเร็วกว่าผู้หญิง 10 ปี แต่เมื่อผู้หญิงเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน ความเสี่ยงก็จะเท่ากับผู้ชาย
  • เชื้อชาติ : เชื้อชาติมีผลต่อความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับพันธุกรรมและวิถีการดำเนินชีวิต

 

   ปัจจัยเสี่ยงที่คุณเปลี่ยนแปลงได้   

          วิถีการดำเนินชีวิตของคุณมีผลต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบไม่น้อยทีเดียว ถึงแม้ว่าคุณอาจมีปัจจัยเสี่ยงที่อาจเปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน จะทำให้คุณลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจได้

  • การสูบบุรี่ ซึ่งจะทำให้ระดับ HDL โคเลสเตอรอล (ไขมันตัวที่ดี) ลดลงและทำลายหลอดเลือด ส่งผลให้หลอดเลือดมีความยืดหยุ่นน้อยลง ผนังหลอดเลือดจะเปลี่ยนสภาพเป็นเหมือนกาวดักแมลงวัน ไขมันและสิ่งสกปรกอื่นๆ จึงมาเกาะติดได้มากขึ้น ดังนั้นการเลิกสูบบุรี่อาจสำคัญกว่าการบำบัดภาวะโคเลสเตอรอลในเลือดสูงก็ได้
  • ขาดการออกกำลังกาย ซึ่งมีผลร้ายต่อร่างกายโดยเฉพาะหัวใจ ผู้ที่ชอบนั่งกับที่มีโอกาสเกิดโรคหัวใจมากกว่าผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำเกือบ 2 เท่า การออกกำลังกายช่วยเพิ่ม HDL โคเลสเตอรอล และลด LDL โคเลสเตอรอล (ไขมันตัวที่ไม่ดี) ทำให้ร่างกายตอบสนองอินซูลินดีขึ้นและลดความดันโลหิต ถ้าคุณมีโคเลสเตอรอลสูงหรือมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ของโรคหัวใจ การออกกำลังกายช่วยให้หลอดเลือดแข็งแรงและมีสุขภาพดีขึ้น
  • การรับประทานอาหาร แม้ว่าคุณมีโคเลสเตอรอลปกติก็ตาม แต่การรับประทานอาหารประเภทผัก ผลไม้ ธัญพืชและเส้นใยน้อยเกินไป จะทำให้คุณมีโอกาสเกิดโคเลสเตอรอลสูงและเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจได้
  • การดื่มกาแฟ : สำหรับคนทั่วไปแล้ว การดื่มกาแฟจะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจเพียงเล็กน้อย แต่ถ้าคุณเป็นคอกาแฟที่มีการดื่มกาแฟวันละ 4 แก้วหรือมากกว่า จะทำให้ระดับโคเลสเตอรอลสูงขึ้นและเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ
  • ท้องผูกเป็นประจำ คุณอย่าเพิ่งงงว่าท้องผูกจะไปเกี่ยวอะไรกับระดับโคเลสเตอรอลและโรคหัวใจ คุณอาจต้องทำความรู้จักกับที่มาและการทำงานของน้ำดีเสียก่อนคือ ตับมีการขับโคเลสเตอรอลส่วนเกิน แคลเซียมส่วนเกิน ไขมันที่ผ่านการออกซิเดชั่น สารพิษและของเสียไปที่ถุงน้ำดี จากนั้น ถุงน้ำดีจะสังเคราะห์ของเสียเหล่านี้ให้กลายเป็นน้ำดี และส่งผ่านท่อน้ำดีไปยังลำไส้เล็กส่วนต้น เพื่อย่อยน้ำมันและไขมันที่เรารับประทานเข้าไปให้เป็นกรดไขมัน จากนั้นน้ำดีก็จะไหลเข้าสู่ลำไส้ใหญ่ ช่วยหล่อลื่นผนังลำไส้ใหญ่ กระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ใหญ่และช่วยการขับถ่าย แล้วน้ำดีเหล่านี้ก็จะถูกขับออกจากร่างกายพร้อมอุจจาระ ถ้าคุณท้องผูกน้ำดีก็จะตกค้างในลำไส้นานเกินไปและถูกดูดซึมกลับไปยังตับ ผลที่ตามมาคือเพิ่มภาระให้ตับและทำให้โคเลสเตอรอลสูงขึ้น
  • น้ำหนักตัวของคุณ การมีน้ำหนักตัวเกินจะทำให้ LDL โคเลสเตอรอลเพิ่มขึ้นและ HDL โคเลสเตอรอลลดลง โดยเฉพาะไขมันบริเวณรอบเอว (เกิน 40 นิ้วในผู้ชายและ 35 นิ้วในผู้หญิง) จะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ
  • ความเครียด ความเครียดมีผลต่อหัวใจและหลอดเลือดหัวใจ ทำให้เกิดความผิดปกติของระบบประสาทซิมพาเธติก ส่งผลให้โรคหลอดเลือดหัวใจตีบทวีความรุนแรงขึ้น และเร่งให้เกิดการทำลายชั้นเซลล์ของผนังหลอดเลือดแดง

 

   ข้อจำกัดของการทำบอลลูนและบายพาส

          เมื่อเรามีอาการแล้วไปพบแพทย์มักจะได้รับคำแนะนำให้ฉีดสี หากพบว่าหลอดเลือดหัวใจตีบอาจทำบอลลูนขยายหลอดเลือด หรือในกรณีที่มีอาการตีบมากอาจต้องผ่าตัดหัวใจทำบายพาส การทำบอลลูนคือการสอดท่อที่มีบอลลูนเข้าไปในหลอดเลือดหัวใจ เพื่อเบียดให้ไขมันแบนลงไปติดที่ผนังหลอดเลือด หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือไขมันในหลอดเลือดยังมีมากเท่าเดิมเพียงแต่ถูกเบียดให้แบนลงเท่านั้น หลอดเลือดหัวใจของผู้ป่วยจึงมักจะกลับมาตีบใหม่ภายใน 3-6 เดือนหลังการทำบอลลูน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยที่มีไขมันในเลือดสูง เบาหวาน ความดันโลหิตสูงหรือโรคไต โอกาสกลับมาตีบใหม่ก็จะเร็วขึ้น

 

  ส่วนการทำบายพาสหัวใจนั้นแก้ไขได้เฉพาะหลอดเลือดหัวใจเท่านั้น สำหรับหลอดเลือดส่วนอื่นๆ ของร่างกายก็ยังคงสภาพตีบเช่นเดิม เนื่องจากอาการตีบเกิดขึ้นได้ในหลอดเลือดทุกส่วนของร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยหลอดเลือดหัวใจตีบ หลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมอง ตับ ไต และอวัยวะอื่นๆ ก็มักจะมีอาการตีบเช่นกัน หากอาการตีบเกิดขึ้นในหลอดเลือดสมองก็จะทำให้ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ ขี้หลงขี้ลืม แขนขาอ่อนแรง ใบหน้าบิดเบี้ยว ลิ้นชา พูดไม่ชัด ตามัวและเดินเซเหมือนคนเมาเหล้า หากอาการตีบเกิดขึ้นในหลอดเลือดที่แขนขาก็จะทำให้แขนขาเหน็บชา หรือในผู้ป่วยเบาหวานอาจต้องตัดนิ้วเท้าหรือตัดขาในที่สุด

   วิธีการบำบัดของทัศนะการแพทย์จีน   

          สำหรับโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ หลักการวินิจฉัยและบำบัดอันสำคัญที่การแพทย์จีนยึดถือมาตลอดคือ ปวดแสดงว่าไม่โล่ง โล่งแล้วก็จะไม่ปวด (通则不痛痛则不通) ไม่โล่งหมายถึงหลอดเลือดและเส้นลมปราณมีการติดขัดและสะดุด ทำให้เลือดและพลังชี่ไหลเวียนไม่สะดวกจนเกิดอาการปวดหรือเจ็บนั่นเอง การแพทย์จีนจึงนิยมใช้สมุนไพรที่มีสรรพคุณในการทำความสะอาดหลอดเลือดและเส้นลมปราณ เพื่อบำบัดอาการต่างๆ ของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ และเป็นที่น่าสนใจคือวิธีการบำบัดนี้ยังเหมาะกับผู้ที่เป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง อัมพฤกษ์ อัมพาต ไขมันพอกตับ ฯลฯ เนื่องจากโรคเหล่านี้ล้วนเกิดจากสาเหตุที่คล้ายคลึงกันและมีความสัมพันธ์เป็นลูกโซ่ ทั้งยังเพิ่มความรุนแรงซึ่งกันและกัน เรามักจะพบโรคดังกล่าวอยู่ในคนๆ เดียวกัน จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมการแพทย์จีนจึงใช้หลักการและวิธีบำบัดที่คล้ายๆ กันกับผู้ป่วยกลุ่มนี้ ทั้งๆ ที่แต่ละโรคดูจะไม่เหมือนกันในมุมมองของการแพทย์ตะวันตกก็ตาม

 

   การวิจัยสมุนไพรจีนในทัศนะการแพทย์ปัจจุบัน   

          จากการวิจัยและทดลองทางการแพทย์และเภสัชวิทยาในปัจจุบันพบว่า ยาสมุนไพรจีนที่อยู่ในรูปแบบของสารสกัดเป็นรูปแบบที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุด เนื่องจากสามารถสกัดและควบคุมสารออกฤทธิ์ได้อย่างเข้มข้นและแม่นยำ โดยมีกลไกออกฤทธิ์สำคัญดังนี้

  • ปรับความสมดุลของร่างกาย โดยเฉพาะความสมดุลของตับ ทำให้ตับมีการผลิตโคเลสเตอรอลในปริมาณที่เหมาะสมไม่มากเกินไป เพื่อขจัดต้นเหตุสำคัญของโรคระบบหลอดเลือดและหัวใจ
  • ฟื้นฟูการทำงานของตับอ่อน ทำให้ตับอ่อนผลิตอินซูลินในปริมาณที่เหมาะสม พร้อมทั้งส่งเสริมให้ร่างกายตอบสนองต่ออินซูลินได้อย่างมีประสิทธิภาพ โรคเบาหวานจึงค่อยๆ ทุเลาลงอย่างเห็นได้ชัด
  • ลดภาวะการขาดเลือดของกล้ามเนื้อหัวใจ เพิ่มความสามารถในการบีบตัวและลดความต้องการออกซิเจนของกล้ามเนื้อหัวใจ จึงบรรเทาอาการปวด แน่น จุกเสียดหน้าอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ลดความข้นของโคเลสเตอรอลและระดับไตรกลีเซอไรด์ เพิ่ม HDL โคเลสเตอรอลเพื่อนำ LDL โคเลสเตอรอลที่สะสมตามผนังหลอดเลือดกลับไปที่ตับเพื่อขจัดออกจากร่างกาย
  • เพิ่มความยืดหยุ่นของหลอดเลือด สลายและยับยั้งการก่อตัวของลิ่มเลือด ลดความเหนียวหนืดของเซลล์เม็ดเลือด จึงบำบัดความดันโลหิตสูง ภาวะหลอดเลือดหัวใจและสมองตีบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจ สมองและอวัยวะต่างๆ ได้ดีขึ้น

 

อาการปวด แน่น จุกเสียดหน้าอก หายใจไม่สะดวก มึนศีรษะหรืออาการแขนขาอ่อนแรง ลิ้นชา พูดไม่ชัด ตามัว กลืนอาหารลำบาก หรือเดินเซเหมือนคนเมาเหล้า จึงค่อยๆ ทุเลาลง หรืออาจหายไปได้ในที่สุด

Facebook

ขออนุญาตแนะนำบทความของเอินเวย์ค่ะ



โรคหลอดเลือดหัวใจตีบเป็นอย่างไร?



ปัจจุบัน โรคหลอดเลือดหัวใจตีบในกลุ่มคนอายุ 35- 45 ปีมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทุกปี เนื่องจากต้องดำเนินชีวิตแบบเร่งรีบและพึ่งพาอาหารสำเร็จรูปที่มี

ไขมันสูง โรคหลอดเลือดหัวใจตีบจึงไม่ใช่เป็นโรคของผู้สูงอายุอีกต่อไป ใน



กรณีหลอดเลือดหัวใจยัง

ตีบไม่มาก ผู้ป่วยอาจไม่รู้สึกอาการใดๆ อาการต่างๆ

จะเกิดขึ้นต่อเมื่อหลอดเลือดหัวใจตีบไปมากกว่า75%

จึงจะ แสดงอาการจุกเสียด แน่นหน้าอก เจ็บหน้าอกเป็นบางครั้ง หายใจไม่เต็มปอด ใจสั่น เหนื่อยง่าย รู้สึกอ่อนเพลียง่าย เป็นต้น 

และที่สำคัญคือ เมื่อหลอดเลือดหัวใจตีบได้ หลอดเลือดส่วนอื่นๆ ของร่างกาย เช่น หลอดเลือดสมองก็ตีบได้เช่นกัน ดังนั้น การทานยาขยายหลอดเลือด การทำบอลลูน ตลอดจนการทำ By pass นั้น อาจมิใช่ทางออกที่ดีที่สุดของผู้ป่วย



การแพทย์จีนมีวิธีการบำบัดที่ต้นเหตุอย่างไร ?



- ทะลวงเส้นเลือดให้โล่งขึ้น ลดความหนืดของเซลล์เม็ดเลือด กระตุ้นระบบการไหลเวียนของเลือด ช่วยให้เลือดไปหล่อเลี้ยงหัวใจได้มากขึ้น



- ปรับความสมดุลย์ของตับ ทำให้ตับผลิตไขมันในปริมาณที่เหมาะสม ลดไขมันในกระแสเลือด



- ลดภาวะการขาดเลือดของกล้ามเนื้อหัวใจ เพิ่มความสามารถในการบีบตัวและลดความต้องการ ออกซิเจนของกล้ามเนื้อหัวใจ จึงบรรเทาอาการปวดแน่น จุกเสียดหน้าอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ



- เพิ่ม HDL เพื่อนำ LDL โคเลสเตอรอลที่สะสมอยู่ตามผนังหลอดเลือดให้กลับไปที่ตับเพื่อขจัดออกจากร่างกาย



- เพิ่มความยืดหยุ่นของหลอดเลือด สลายและยับยั้งการก่อตัวของลิ่มเลือด ลดความเหนียวหนืดของเซลล์เม็ดเลือด จึงบำบัดภาวะหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมองตีบได้อย่างมีประสิทธิภาพ



โรคหลอดเลือดหัวใจตีบหรือโรคหลอดเลือดสมองตีบเป็นโรคที่เรา สามารถป้องกันและบำบัดได้จากที่ต้นเหตุ จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าหนักใจอีกต่อไป...



มุ่งบำบัดที่ต้นเหตุ เน้นฟื้นฟูโดยองค์รวม

เอินเวย์ ผู้นำด้านเภสัชกรรมสมุนไพรจีน

นวัตกรรมสมุนไพรจีน เสริมสร้างสุขภาพ



สายด่วนสุขภาพเอินเวย์ : 02-7514399 ( 20 คู่สาย )

Line ID  @enwei หรือ @healthbalance

https://www.facebook.com/EnweiGroup/

https://www.youtube.com/c/ENWEIGROUP/videos

http://www.enwei.co.th/

#โรคหัวใจ #เส้นเลือดตีบ #หลอดเลือดหัวใจ #หลอดเลือดสมอง #หมอจีน #แพทย์จีน #เอินเวย์ #ยาจีน #สมุนไพรจีน #ยาสมุนไพร #เจ็บหน้าอก #Enwei #หลอดเลือดสมองตีบ #ความดันโลหิตสูง #เบาหวาน #ลดไขมันในเลือด #ปวดแน่นจุกเสียดหน้าอก #ทำความสะอาดหลอดเลือด #สลายลิ่มเลือด #โคเลสเตอรอล #เจ็บหน้าอก #หายใจไม่เต็มปอด #ข้อเท้าบวม #ใจสั่น #อ่อนเพลีย #เป็นลม #จุกเสียด #แน่นหน้าอก #เหนื่อยง่าย 

ปรับปรุงเมื่อ 2020-09-08 03:19:09 118.175.176.***
สินค้าแนะนำ
อาการหลอดเลือดหัวใจตีบ
อาการหลอดเลือดหัวใจตีบ
ปวดต้นคอ หมอนรองกระดูกคอเสื่อม เอินเวย์มีทางออก
ปวดต้นคอ หมอนรองกระดูกคอเสื่อม เอินเวย์มีทางออก
หน้าร้าน http://www.meemarket.com/21003
   
  สนใจติดต่อ

ใส่ตะกร้า คลิ๊กเลย!!! ติดต่อร้าน คลิ๊กเลย!!! ไปที่หน้าหลักของร้านนี้ คลิ๊ก!!! ย้อนกลับก่อนหน้า!!! แจ้งสินค้าผิดกฏหมาย หรือ กฏการใช้งานของ meemarket.com!!!




ความเห็น

ความเห็น :
ชื่อ
email
ซ่อน E-Mail
รหัสภาพ
สมัครสมาชิก Click ที่นี่ | เข้าสู่ระบบ Click ที่นี่
   
 
 
User :
Pass :
ลืมรหัสผ่าน

 
 
 
© Copyright 2010 WWW.MEEMARKET.COM All Rights Reserved.