กลีเซอรีน, Glycerine

กลีเซอรีน, กลีเซอรอล, Glycerine, Glycerol

กลีเซอรีน (glycerine)อาจจะเรียกได้หลายชื่อ เช่น glycerol, glycerin, หรือ 1,2,3-propanetriol สามารถเขียนสูตรโมเลกุลทางเคมีได้เป็นCH 2 OHCHOHCH 2 OH เป็นสารไม่มีกลิ่น(odorless) ไม่มีสี(colorless)รสหวาน(sweet-tasting) เหมือนน้ำเชื่อม(syrupy liquid) . กลีเซอรีน (glycerine) เป็น trihydric alcohol . หลอมเหลวที่ 17.8?C เดือดและสลายตัว(Boil & decomposition) ที่ 290?C, ละลายในน้ำและ เอทานอล ดูดกลืนน้ำจากอากาศ จึงนำไปทำเป็น moistener ในเครื่องสำอาง กลีเซอรีน จะอยู่นรูปแบบของ (glycerides) ในไขและน้ำมันพืชและน้ำมันสัตว์ กลีเซอรีน สามารถสังเคราะห์ได้จาก Propylene และจากการหมักน้ำตาลด้วยsodium bisulfite และยีสต์(yeast) และมีการผลิตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจากกระบวนการผลิตไบโอดีเซล กลีเซอรีน ถูกใช้งานอย่างกว้างขวางเป็น สารละลาย(solvent) สารเพิ่มความหวาน(sweetener)เครื่องสำอาง(cosmetics and personal care products) สบู่เหลว(liquid soaps) ลูกอม(candy) สุรา(liqueurs) หมึก(inks) และสารหล่อลื่น(lubricants)เพื่อให้ยืดหยุ่น(pliable) สารป้องกันการแข็งตัว (antifreeze mixtures) เป็นส่วนผสมอาหาร(Food and beverage ingredients ) อาหารสัตว์(Animal feed ) สารปฏิชีวนะ(Antibiotics) ยา (Pharmaceuticals)สารให้ความชุ่มชื้น(moisturizers) น้ำมันไฮดรอลิกส์(Hydraulic fluids) และสารตั้งต้นทางปีโตรเคมีต่างๆ(Polyether polyols, propylene glycol, epichlorohydrin และอื่นๆ) กลีเซอรีน เป็นของเหลวที่ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น มีความหนืด และมีรสหวาน โดยปกติมาจากน้ำมันของพืช ซึ่งโดยทั่วไปคือ น้ำมันมะพร้าว และน้ำมันปาล์ม กลีเซอรีนสามารถละลายได้ดีในแอลกอฮอล์และน้ำ แต่ไม่ละลายในไขมัน เนื่องจากกลีเซอรีนมีคุณสมบัติทางเคมีที่หลากหลายจึงสามารถนำไปใช้เป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์สารเคมีอื่นๆได้

ด้วยคุณสมบัติที่สามารถละลายในแอลกอฮอล์และน้ำได้นี่เอง จึงนำไปใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวาง ซึ่งกลีเซอรีนบริสุทธิ์สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในหลายรูปแบบ เช่น ใช้เป็นส่วนผสมหรือเป็นตัวช่วยในกระบวนการผลิตเครื่องสำอางค์ ผลิตภัณฑ์ในห้องน้ำและสุขอนามัยส่วนบุคคล อาหาร ยาสีฟัน ยาสระผม และนิยมใช้มาหในอุตสาหกรรมสบู่ เพราะกลีเซอรีนเป็นส่วนช่วยหล่อลื่นเหมือนมอยซ์เจอร์ไรเซอร์เพื่อปกป้องผิวไม่ให้แห้งและดูดซับความชื้นเมื่อสัมผัสกับอากาศซึ่งจะทำให้รู้สึกว่าผิวมีความชุ่มชื้น อ่อนโยนต่อผิว ขจัดความสกปรกที่ฝังแน่น ไม่ทำให้อุดตันรูขุมขน รวมทั้งปลอดภัยต่อผิวหนัง

การที่กลีเซอรีนเป็นสารที่ไม่มีพิษในทุกๆรูปแบบของการประยุกต์ใช้ ไม่ว่าจะใช้เป็นสารตั้งต้นหรือสารเติมแต่ง ทำให้กลีเซอรีนเป็นสารเคมีที่ได้รับความสนใจและนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ด้วยการทำยาเหน็บทวาร ใช้เป็นยาระบาย และยังสามารถใช้เป็ฯยาเฉพาะที่สำหรับปัญหาทางผิวหนังหลายชนิด รวมถึง โรงผิวหนัง ผื่น แผลไฟลวก แผลกดทับ และบาดแผลจากของมีคม กลีเซอรีนถูกใช้เพื่อรักษาโรคเหงือกได้ด้วย เนื่องจากกลีเซอรีนสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เกี่ยวข้องได้ กลีเซอรีน (glycerine)อาจจะเรียกได้หลายชื่อ เช่น glycerol, glycerin, หรือ 1,2,3-propanetriol สามารถเขียนสูตรโมเลกุลทางเคมีได้เป็นCH 2 OHCHOHCH 2 OH เป็นสารไม่มีกลิ่น(odorless) ไม่มีสี(colorless) รสหวาน(sweet-tasting) เหมือนน้ำเชื่อม(syrupy liquid) . กลีเซอรีน (glycerine)เป็น trihydric alcohol . หลอมเหลวที่ 17.8?Cเดือดและสลายตัว( Boil & decomposition) ที่290?C, ละลายในน้ำและ เอทานอล ดูดกลืนน้ำจากอากาศ จึงนำไปทำเป็น moistener ในเครื่องสำอาง กลีเซอรีน จะอยู่นรูปแบบของ (glycerides) ในไขและน้ำมันพืชและน้ำมันสัตว์ กลีเซอรีน สามารถสังเคราะห์ได้จาก Propylene และจากการหมักน้ำตาลด้วยsodium bisulfite และยีสต์(yeast) และมีการผลิตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจากกระบวนการผลิตไบโอดีเซล กลีเซอรีน ถูกใช้งานอย่างกว้างขวางเป็น สารละลาย(solvent) สารเพิ่มความหวาน(sweetener)เครื่องสำอาง(cosmetics and personal care products) สบู่เหลว(liquid soaps) ลูกอม(candy) สุรา(liqueurs) หมึก(inks) และสารหล่อลื่น(lubricants)เพื่อให้ยืดหยุ่น(pliable) สารป้องกันการแข็งตัว (antifreeze mixtures) เป็นส่วนผสมอาหาร(Food and beverage ingredients ) อาหารสัตว์(Animal feed ) สารปฏิชีวนะ(Antibiotics) ยา (Pharmaceuticals)สารให้ความชุ่มชื้น(moisturizers) น้ำมันไฮดรอลิกส์(Hydraulic fluids) และสารตั้งต้นทางปีโตรเคมีต่างๆ(Polyether polyols, propylene glycol, epichlorohydrin และอื่นๆ) กรีเซอรีน ใช้รักษาปริมาณความชื้น เพื่อป้องกันการ drying-out ซึ่งทำให้ผลิตภัณฑ์แห้ง สามารถใช้ได้ทั้งในอุตสาหกรรม ยา อาหาร และเครื่องสำอาง Glycerin;Glycol alcohol; Glycerol, Anhydrous; 1,2,3-propanetriol,  กรีเซอรีน, กลีเซอรอล,กรีเซอรอล

Refined Glycerine. Refined Glycerine is an important ingredient in production of food, pharmaceutical and health care products. Pure glycerine is colourless, odourless, viscous, nontoxic liquid with a very sweet taste. Glycerine Refined has many applications such as ingredient or processing aid in cosmetics, toiletries, personal care, drugs and food products, etc. The physical properties of Glycerine can be used as humectants, plasticizer, emollient, thickener, solvent, dispersing medium, lubricant, sweetener, antifreeze and non-toxicity.

CAS Number ของกลีเซอรีน CAS NUMBER 56-81-5. CAS-Number หรือ CAS Registry Number เป็นชุดตัวเลขที่กำหนดโดยChemical Abstracts Service เพื่อใช้เชื่อมสูตรโครงสร้างกับชื่อดัชนีของChemical Abstracts Service กับข้อมูลอื่น CAS-Numberแต่ละชุดจะหมายถึง สารที่สามารถแสดงสูตรได้ในเชิงอะตอม การจับของอะตอม และโครงสร้าง 3 มิติ CAS-Number ประกอบด้วยชุดตัวเลขไม่เกิน 9 หลัก (xxxxxx-xx-x) ส่วนแรกประกอบด้วยตัวเลข 2-6 หลัก ส่วนที่สองประกอบด้วยตัวเลข 2 หลัก ส่วนสุดท้ายเป็นตัวเลข 1 หลัก ซึ่งใช้สำหรับตรวจสอบความถูกต้องของตัวเลขทั้งชุดด้วยคอมพิวเตอร์ พิกัดอัตราศุลกากร ของกลีเซอรีน 2905.45.00 000 – Glycerol พิกัด อัตราศุลกากร ของกลีเซอรีน  2905.45.00 000 - -  Glycerol  ซึ่งมีชื่อพ้องกันดังนี้  Glyceritol , Glycerol ,Glycic Alcohol , 1,2,3-Propanetriol , 1,2,3-Trihydroxypropane,กลีเซอรอล, กลีเซอรีน

ประโยชน์ของ กลีเซอรีน (Glycerin, Glycerine) (ตอนที่ 1)

กลีเซอรีน (Glycerin, Glycerine) คือ แอลกอฮอล์ (Alcohol) ชนิดหนึ่ง ซึ่งจะมีหมู่ OH เกาะอยู่ มึสูตรทางเคมีคือ C3H5(HO)3 มีลักษณะข้นและใส ไม่มีสี เป็นผลพลอยได้จากกระบวนทำสบู่ โดยที่ด่างจะผสมกับไขมันจากสัตว์และพืช ผู้ผลิตสบู่จะแยกกรีเซอลีน (Glycerine) ออกมาเพื่อนนำไปใช้ประโยชน์ในการทำโลชั่นและครีมได้อีก กรีเซอรีน (Glycerin) เมื่ออยู่ในโลชั่นจะให้ผลดีมาก เนื่องจากเป็นวัตถุดิบที่ให้ความชุ่มชื้น สามารถละลายได้ในแอลกอฮอล์ (Alcohol)และในน้ำ กลีเซอรีน (Glycerin) ยังนำไปใช้ผลิตไนโตรกลีเซอรีน (Nitro Glycerin)และขนม และยังนำไปใช้ถนอมผักและผลไม้ รวมทั้งแช่ตัวอย่างทดลองในห้องแล็ป มองหาส่วนผสมที่เป็นกลีเซอรีน (Glycerin)ได้จากบรรดาโลชั่นที่วางจำหน่ายตามชั้นในร้านขายยา หรือร้านงานฝีมือที่ขายผลิตภัณฑ์จากสบู่ เมื่อรู้จักกับกลีเซอรีน (Glycerin)กันมากพอแล้วคราวนี้มาดูวิธีใช้ประโยชน์กันดีกว่าครับทำความสะอาดช่องแช่แข็ง คราบอาหารหมดโอกาสติดแน่นอยู่ในช่องแช่แข็งถ้ามีกลีเซอรีน (Glycerin) โดยขจัดคราบอาหารแล้วใช้เศษผ้าแตะกลีเซอรีน (Glycerin) ซึ่งเป็นตัวทำละลายตามธรรมชาติเช็ดบริเวณคราบติดแน่นให้สะอาด เท่านี้เราก็ได้ช่องแช่แข็งใหม่สะอาดเอี่ยม

ประโยชน์ของ กลีเซอรีน (Glycerin, Glycerine) (ตอนที่ 2)

สบู่เหลวขวดใหม่ เศษสบู่ที่เหลือจะเอาไปทำอะไรดีหนอ ผสมกลีเซอรีน (Glycerin)ลงไป แล้วบี้สบู่ให้เข้ากันในน้ำอุ่น เทส่วนผสมใส่ขวดปั๊มเท่านี้คุณก็มีสบู่เหลวราคาประหยัดเอาไว้ใช้ ถนอมใบไม้ เจอใบไม้รูปทรงแปลกๆ อยากเก็บไว้ดูเล่นหรือเอาไปตกแต่งบัตรอวยพร แต่แทนที่จะทับแห้งอย่างที่เคยทำ ลองเปลี่ยนมาแช่กลีเซอรีน (Glycerin)ดู ใบไม้ที่แช่กลีเซอรีน (Glycerin)จะคล้ายใบไม้สด สีจะเปลี่ยนไปบ้าง อาจจะสีเขียวเข้มขึ้น หรือเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล แล้วแต่ความอ่อนแก่ของใบ ชนิดของใบ เป็นต้น วิธีการ คือผสมกลีเซอรีน (Glycerin)กับน้ำอุ่นเกือบร้อน 2 ส่วน คนให้เข้ากันทิ้งไว้ให้เย็น เลือกใบไม้ที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์มาจัดวางในภาชนะโดยส่วนโคนใบอยู่ด้านล่างเทส่วนผสมที่เตรียมไว้ลงไปให้ท่วม ทิ้งไว้นาน 2 สัปดาห์ ถึง 2 เดือนเอาใบขึ้นมาล้างน้ำ เช็ดให้แห้งและตากลมอีกครั้ง คราบถ่านหายไป คุณคงคิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะขจัดคราบถ่านหรือคราบมัสตาร์ด แต่เป็นไปได้ถ้าคุณใช้กลีเซอรีน (Glycerine) ถูกลีเซอรีน (Glycerine)ตรงรอยเปื้อน แล้วทิ้งไว้ราวหนึ่งชั่วโมง จากนั้นใช้กระดาษอเนกประสงค์ที่ใช้ในครัวเช็ดออก โดนค่อยๆ กดแล้วยกขึ้น ซึ่งอาจต้องทำซ้ำหลายๆครั้ง แก้ไขมือหยาบกร้าน เพียงผสมกลีเซอรีน (Glycerine)และน้ำมันระหุงอย่างละเท่ากันเป็นเนื้อเดียว ใช้สูตรนี้ทามือให้ทั่วทั้งฝ่ามือและหลังมือ ทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง มือจะนุ่มนวลขึ้น

ประโยชน์ของ กลีเซอรีน (Glycerin, Glycerine) (ตอนที่ 3)

ทำสบู่ใช้เอง สบู่ทำเองเป็นของขวัญชิ้นเยี่ยมและทำง่ายมาก เพียงมีกลีเซอรีน (Glycerine)และเตาไมโครเวฟ ก็ลงมือได้เลย ตัดกลีเซอรีน (Glycerine)ที่ส่วนใหญ่ จะมาขายเป็นท่อนๆ ให้เป็นลูกเต๋าขนาด 2 นิ้ว หย่อนกลีเซอรีน (Glycerine) หลายๆก้อนใส่ภาชนะแก้ว เอาเข้าเตาไมโครเวฟไฟปานกลาง เอาออกมาดูทุกๆ 30 วินาที จนกว่าจะละลายใช้ได้ ถึงตรงนี้ให้เติมสีหรือกลิ่นที่คุณชอบ จากนั้นรินกลีเซอรีน (Glycerine)เหลวลงในพิมพ์สบู่หรือพิมพ์ขนม ถ้าไม่มีใช้ถ้วยพลาสติกโพลีสไตริน เทลงไปซัก 3 ใน 4 นิ้วจากก้นถ้วย ทิ้งให้แข็งตัวราวครึ่งชั่วโมง ขจัดคราบกาแฟค้างเก่า เสื้อตัวสวยกลับจากงานเลี้ยงน้ำชา-กาแฟด้วยคราบกาแฟที่เปื้อนใส่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ถ้าเห็นแต่แรกซับด้วยน้ำทันทียังพอทำเนา แต่คราบเก่าซักยากยิ่ง ลองซับด้วยน้ำเย็นดูก่อนแล้วให้ถูให้ทั่วด้วยกลีเซอรีน (Glycerine) ทิ้งไว้ครึ่งชั่วโมงแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น จากนั้นจึงซักตามปกติ

กลีเซอรอล (glycerol)อาจเรียกว่า กลีเซอรีน (glycerineหรือglycerin ) มีโครงสร้างโมเลกุลเป็นโพลิออล (polyol) เป็นสารที่เป็นของเหลว ใส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น มีรสหวานเล็กน้อย (ความหวานสัมพัทธ์ 60) ในโมเลกุลมีหมู่ไฮดรอกซิล (-OH) 3 หมู่ จึงทำให้ละลายน้ำได้ดี มีสมบัติในการจับกับน้ำได้ดี (hydroscopic) กลีเซอรอลเป็นส่วนประกอบหลักในโมเลกุลของไตรกลีเซอร์ไรด์ (triglyceride)ซึ่งได้จากการรวมตัวของกลีเซอรอลกับกรดไขมัน (fatty acid) 3 โมเลกุล

การใช้กลีเซอรอลในอาหาร

1 ใช้เป็นวัตถุเจือปนอาหาร (food additive) E-number E422 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ

 •สารเก็บความชื้น (humectant)ป้องกันไม่ให้อาหารแห้ง มีค่าวอเตอร์แอคทิวิตี้ (water activity) ต่ำช่วยลดค่าวอเตอร์แอคทิวิตี้ของอาหาร

 •สารให้ความหวาน (sweetener)มีค่าความหวานสัมพัทธ์ 60 (น้ำตาลซูโครสมีความหวานสัมพัทธ์เท่ากับ100 ) แต่ให้ค่าดัชนีไกลซิมิก (glycemic index) ที่ต่ำกว่า และแบคทีเรียไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ จึงไม่ทำให้อาหารเสื่อมเสีย และไม่ทำให้ฟันผุ

 •เป็นสารที่ทำข้นหนืด (thickening agent) ใน liqueur

 •เป็นอิมัลซิไฟเออร์ emulsifier

2 เป็นไครโอโพรเทกแทนต์ (Cryoprotectant) ใช้สารที่ป้องกันการเกิดผลึกน้ำแข็งโดยลดจุดเยือกแข็ง (freezing point) ให้ต่ำลง

3ใช้เพื่อผลิตmonoglyceride and diglyceride ซึ่งใช้เป็นemulsifier

Glycerol (or glycerine, glycerin) is a simple polyol (sugar alcohol) compound. It is a colorless, odorless, viscous liquid that is widely used in pharmaceutical formulations. Glycerol has three hydroxyl groups that are responsible for its solubility in water and its hygroscopic nature. The glycerol backbone is central to all lipids known as triglycerides. Glycerol is sweet-tasting and of low toxicity.

Production

Approximately 950,000 tons per annum are produced in the United States and Europe; 350,000 tons of glycerol were produced per year in the United States alone from 2000–2004. Production will increase as the EU directive 2003/30/EC is implemented, which requires the replacement of 5.75% of petroleum fuels with biofuel across all Member States by 2010, as glycerol is a byproduct in the production of biodiesel. It is projected that by the year 2020, production will be six times more than demand.

Applications

Food industry

In food and beverages, glycerol serves as a humectant, solvent, and sweetener, and may help preserve foods. It is also used as filler in commercially prepared low-fat foods (e.g., cookies), and as a thickening agent in liqueurs. Glycerol and water are used to preserve certain types of leaves. As a sugar substitute, it has approximately 27 kilocalories per teaspoon (sugar has 20) and is 60% as sweet as sucrose. It does not feed the bacteria that form plaques and cause dental cavities. As a food additive, glycerol is labeled as E number E422. It is added to icing (frosting) to prevent it setting too hard. As used in foods, glycerol is categorized by the American Dietetic Association as a carbohydrate. The U.S. Food and Drug Administration (FDA) carbohydrate designation includes all caloric macronutrients excluding protein and fat. Glycerol has a caloric density similar to table sugar, but a lower glycemic index and different metabolic pathway within the body, so some dietary advocates accept glycerol as a sweetener compatible with low carbohydrate diets.

Glycerol is used in medical and pharmaceutical and personal care preparations, mainly as a means of improving smoothness, providing lubrication and as a humectant. It is found in allergen immunotherapies, cough syrups, elixirs and expectorants, toothpaste, mouthwashes, skin care products, shaving cream, hair care products, soaps and water-based personal lubricants. In solid dosage forms like tablets, glycerol is used as a tablet holding agent. For human consumption, glycerol is classified by the U.S. FDA among the sugar alcohols as a caloric macronutrient.

Glycerol is a component of glycerin soap. Essential oils are added for fragrance. This kind of soap is used by people with sensitive, easily-irritated skin because it prevents skin dryness with its moisturizing properties. It draws moisture up through skin layers and slows or prevents excessive drying and evaporation.[citation needed] With similar benefits, glycerin is a common ingredient in many bath salts recipes. However, some assert that due to glycerin's moisture absorbing properties, it can be more of a hindrance than a benefit.

Glycerol can be used as a laxative when introduced into the rectum in suppository or small-volume (2–10 ml) (enema) form; it irritates the anal mucosa and induces a hyperosmotic effect. Taken orally (often mixed with fruit juice to reduce its sweet taste), glycerol can cause a rapid, temporary decrease in the internal pressure of the eye. This can be useful for the initial emergency treatment of severely elevated eye pressure.

Botanical extracts[edit]

When utilized in 'tincture' method extractions, specifically as a 10% solution, glycerol prevents tannins from precipitating in ethanol extracts of plants (tinctures). It is also used as an 'alcohol-free' alternative to ethanol as a solvent in preparing herbal extractions. It is less extractive when utilized in a standard tincture methodology. Glycerol is approximately 30% more slowly absorbed by the body resulting in a much lower glycemic load. Alcohol-based tinctures can also have the alcohol removed and replaced with glycerol for its preserving properties. Such products are not 'alcohol-free' in either a scientific or consumable sense, but should in all instances more accurately be referred to as "Alcohol-Removed" products. Fluid extract manufacturers often extract herbs in hot water before adding glycerin to make glycerites.[10][11]

When used as a primary 'true' alcohol-free (e.g. no alcohol (i.e. ethanol) ever being used) botanical extraction solvent in innovative non-tincture based 'dynamic' methodologies, glycerol has been shown to possess a high degree of extractive versatility for botanicals including removal of numerous constituents and complex compounds, with an extractive power that can rival that of alcohol and water/alcohol solutions. That glycerol possess such high extractive power assumes that glycerol, with its tri-atomic structure, is utilized with dynamic methodologies as opposed to standard passive 'tincturing' methodologies that are better suited to alcohol's di-atomic structure. Glycerol possesses the intrinsic property of not denaturing or rendering a botanical's constituents inert (as di-atomic alcohols – i.e. ethanolic (grain) alcohol, methanolic (wood) alcohol, etc., do). Glycerol is a stable preserving agent for botanical extracts that, when utilized in proper concentrations in an extraction solvent base, does not allow inverting or reduction-oxidation of a finished extract's constituents, even over several years. Both glycerol and ethanol are viable preserving agents. Glycerol is bacteriostatic in its action, and ethanol is bactericidal in its action.

Antifreeze

Main article: antifreeze

Like ethylene glycol and propylene glycol, glycerol is a non-ionic kosmotrope that forms strong hydrogen bonds with water molecules, competing with water-water hydrogen bonds. This disrupts the crystal lattice formation of ice unless the temperature is significantly lowered. The minimum freezing point temperature is at about −36 °F / −37.8 °C corresponding to 70% glycerol in water. Glycerol was historically used as an anti-freeze for automotive applications before being replaced by ethylene glycol, which has a lower freezing point. While the minimum freezing point of a glycerol-water mixture is higher than an ethylene glycol-water mixture, glycerol is not toxic and is being re-examined for use in automotive applications. In the laboratory, glycerol is a common component of solvents for enzymatic reagents stored at temperatures below 0 °C due to the depression of the freezing temperature. It is also used as a cryoprotectant where the glycerol is dissolved in water to reduce damage by ice crystals to laboratory organisms that are stored in frozen solutions, such as bacteria, nematodes, and mammalian embryos.

Chemical intermediate

Glycerol is used to produce nitroglycerin, which is an essential ingredient of various explosives such as dynamite, gelignite, and propellants like cordite. Reliance on soap-making to supply co-product glycerine made it difficult to increase production to meet wartime demand. Hence, synthetic glycerin processes were national defense priorities in the days leading up to World War II. Nitroglycerin, also known as glyceryl trinitrate (GTN) is commonly used to relieve angina pectoris, taken in the form of sub-lingual tablets, or as an aerosol spray. Allyl iodide, a chemical building block for polymers, preservatives, organometallic catalysts, and pharmaceuticals, can be synthesized by using elemental phosphorus and iodine on glycerol.

A great deal of research is being conducted to try to make value-added products from crude glycerol (typically containing 20% water and residual esterification catalyst) obtained from biodiesel production. The use of crude glycerin as an additive to biomass for a renewable energy source when burned or gasified is also being explored.

Hydrogen gas production unit

Glycerine acetate (as a potential fuel additive)

Conversion to propylene glycol

Conversion to acrolein

Conversion to ethanol

Conversion to epichlorohydrin, a raw material for epoxy resins

Glycerine is also named as "Glycerin" and "Glycerol". However, Glycerine is the most common used in the USA. Chemically, it is a trihydric alcohol as by product of oleochemicals and biodiesel production. After the process of refining for purification to become "Refined Glycerine", it will have glycerine content in a range between 95.0% or more. For physical properties of refined glycerine, it is water-soluble, clear or colorless, odorless, vicious, hygroscopic liquid with high boiling point. Refined glycerine can be used in many applications since it is nontoxic to human health and environment; for example - food, personal care, cosmetics, pharmaceuticals or even foams.

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายขาย

Thai Poly Chemicals Co., Ltd.

บริษัท ไทยโพลีเคมิคอล จำกัด

ที่อยู่36/5 ม.9  แขวง/ตำบลนาดี  เขต/อำเภอเมืองสมุทรสาคร  จังหวัดสมุทรสาคร รหัสไปรษณีย์74000

Tel.:034854888, 034496284

Fax.:034854899, 034496285

Mobile:0824504888, 0800160016

Website : www.thaipolychemicals.com

Email1 : thaipolychemicals@hotmail.com

Email2 : info@thaipolychemicals.com