ฟรี ร้านค้า ออนไลน์ ads 3.138.33.178 : 20-04-24 2:39:14   
สมัครสมาชิกใช้งานติดต่อโฆษณาสินค้าแยกตามหมวดร้านค้าสมาชิกกระดานสนทนากระดานสนทนา
MeeMarket

  หมวดสินค้าของเรา            
  
 

Tag / คำค้น

  แสดงสินค้าทั้งหมด
มีอะไรอยู่ในตะกร้าบ้างแล้ว คลิ๊กเลย!!!
หน้าแรกของร้าน
ร้าน MeeMarket
กระดานถามตอบของร้าน
>> webboard ของร้าน >> รอยเหลื่อมแห่งเวลาที่...ปักกิ่ง

หัวข้อ : รอยเหลื่อมแห่งเวลาที่...ปักกิ่ง  
 
เมืองที่สถาปัตยกรรมโบราณยืนเบียดเคียงบ่าเคียงไหล่ กับสถาปัตยกรรมสุดล้ำของยุคใหม่ และไปไหน ๆ ก็เต็มไปด้วยคน...คน...และคน

หลังจากได้เป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิปปิกฤดูร้อนเมื่อปี 2008 หรือเมื่อสองปี ที่แล้ว ชื่อเสียงของ “ปักกิ่ง” เมืองหลวงของสาธารณรัฐประชาชนจีน ก็กลายเป็นเมืองที่แทบจะขึ้นมาเทียบชื่อชั้น ของมหานครใหญ่หลายแห่งในโลกได้ อย่างไม่น้อยหน้าใคร ใครที่เคยมาปักกิ่งก่อนจะมีการจัดแข่งกีฬาโอลิมปิก ควรต้องกลับ มาใหม่อีกสักครั้ง เพื่อเทียบดูว่าเดี๋ยวนี้ปักกิ่งเขาพัฒนาไปถึงไหนกันแล้ว

อย่างน้อยก็ยังพอหาห้องน้ำที่ทันสมัยกว่าเดิม และไม่เหม็นเท่าเดิมได้ และบ้านเมืองที่ดูสะอาดสะอ้านกว่าเดิมหลายขุม ทุกอย่างล้วนดูราวกับถูกเนรมิตขึ้นมาอย่างไรอย่างนั้นทีเดียวเชียว

ใหม่เคียงเก่า

แต่ที่ไม่เคยเปลี่ยนเห็นจะเป็นผู้คนที่มากมาย จนต้องใช้คำว่า ยั๊วะเยี๊ยะ ไปหมดตามสถานที่ต่าง ๆ ใครไปเมืองจีนเข้าสักทีก็คงเลิกแปลกใจแล้วว่า ทำไมคนจีนถึงทำตัวไม่แคร์ใคร เพราะแค่อาศัยคนจีนอย่างเดียว กำลังการบริโภคในมือก็มีอยู่เหลือเฟือ แถมคนอื่นต่างหากที่ต้องหันมาง้อประชากรที่มากมายมหาศาลของเมืองจีน ที่กำลังมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตามเศรษฐกิจที่กำลังร้อนแรง

จีนทุกวันนี้จึงเป็นจีนที่แสนจะทันสมัย ถ้าไม่นับว่ามีรัฐบาลที่บอกซ้ายหันขวาหันกับประชาชน ได้ตามชอบใจเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง จีนก็แทบจะไม่ต่างจากเมืองใหญ่หลายแห่งในโลกเสรี

ปักกิ่ง...ที่เป็นเมืองหลวงของจีน ก็ถูกปรับโฉมเสียจนสวยงามน่าดู สมกับเป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่อันดับสองรองจากเซี่ยงไฮ้ ซึ่งถ้าเซี่ยงไฮ้เป็นศูนย์กลางธุรกิจและการค้า ปักกิ่งก็เป็นศูนยืกลางทางการปกครอง การศึกษา และศิลปวัฒนธรรมของจีน เป็นเมืองที่รุ่มรวยด้วยสถานที่ทางประวัติศาสตร์มากมาย เคียงข้างไปกับสถาปัตยกรรมยุคใหม่ ที่ผุดขึ้นมามากขึ้นเรื่อย ๆ หลายตึกได้รับการออกแบบอย่างสุดล้ำ เหมือนจะอวดกันว่า ไม่ว่าจะของเก่าหรือของใหม่ จีนก็สามารถสร้างความน่าตื่นตาตื่นใจได้ไม่แพ้ใครในโลก

สวัสดี...เทียนอันเหมิน

แต่ถ้าเป็นของเก่าแล้ว จีนคงต้องนับว่าไม่เป็นสองรองใคร ด้วยความเป็นประเทศเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน รวมทั้งมีความเข้มแข็งทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจ ศิลปวัฒนธรรมของจีนจึงได้กลายมาเป็นต้นแบบ ให้แก่ศิลปวัฒนธรรมของหลายประเทศ ในย่านเอเชียด้วยกัน และกลิ่นอายของอดีตอันรุ่งเรืองก็หอมอวลอยู่ทั่วปักกิ่ง สถานที่ท่องเที่ยวที่พลาดไม่ได้ของปักกิ่ง ก็ล้วน แต่เป็นสถานที่แห่งประวัติศาสตร์อันยาวนาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระราชวังต้องห้าม ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี

แต่ก่อนจะย่างก้าวเข้าไปสัมผัสกับรอยเวลาที่พระราชวังต้องห้าม อย่าลืมแวะผ่านไปทักทายกับจตุรัสใหญ่ยักษ์กลางเมืองปักกิ่งกันก่อน ชื่อของ เทียนอันเหมิน ที่ได้ชื่อมาจากประตูที่อยู่ทางเหนือของจตุรัส เป็นที่จดจำกันทั่วโลกถึงโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ ที่ทำให้เหล่าชาวโลกเสรีรุมประณามรัฐบาลจีน

แต่ในขณะเดียวกันเทียนอันเหมินก็เป็นจุดศูนย์รวมสำคัญของปักกิ่ง ที่แวดล้อมไปด้วยสถานที่ทางประวัติสาสตร์ที่สำคัญ อย่างเช่น พระราชวังต้องห้าม ที่ทุกคนต้องไปเยือน และยังมีพิพิธภัณฑ์รวมถึงสถานที่ราชการสำคัญ ๆ อีกมากมาย ฉะนั้น อย่าไปนึกถึงเรื่องเศร้าที่ผ่านไปแล้วให้มากนัก มาเปิดตาเปิดใจชื่นชมกับศิลปวัฒนธรรมอันงดงาม ที่อยู่รายล้อมจตุรัสขนาด 400,000 ตารางเมตร ที่ได้ชื่อว่าเป็นจตุรัสที่ใหญ่ที่สุดในโลกกันดีกว่า

หอมกลิ่นอดีตในพระราชวังต้องห้าม

เมื่อบอกลาเทียนอันเหมิน เราก็สามารถทักทายกับ พระราชวังต้องห้าม ได้ในเกือบทันที คนจีนเรียกที่นี่ในอีกชื่อหนึ่งว่า กู้กง ซึ่งหมายถึงพระราชวังเดิม แต่คำว่า พระราชวังต้องห้าม หรือ Forbidden City มาจากอดีตซึ่งที่นี่เป็นสถานที่ต้องห้ามสำหรับสามัญชนทั่วไป

แต่ตอนนี้เหล่าสามัญชนสามารถเดินกันเกลื่อน พระราชวังต้อมห้าม ได้อย่างเสรี แต่กว่าจะเดินทั่วก็คงอาจขาลาก เพราะคนจีนดูจะนิยมสร้างอะไรให้ใหญ่โตมาแต่ไหนแต่ไร พระราชวังแห่งนี้จึงมีเนื้อที่ถึง 720,000 ตารางเมตรหรือประมาณ 450 ไร่นั่นทีเดียว

บนพื้นที่มหึมานี้มีอาคารถึง 800 หลัง และมีห้องต่าง ๆ รวมกันถึง 9,999 ห้อง ถ้าใครเดินที่จตุรัสเทียนอันเหมินมาแล้ว ก่อนจะลอดอุโมงค์ข้ามมาที่นี่ ก็อาจหมดแรงที่จะเดินดูให้ทั่วถึง หรืออย่างน้อยก็คงไม่อาจเดินชมที่นี่ ได้อย่างทั่วถึงภายในวันเดียวแน่นอน แต่ท่ามกลางอาคารท้องพระโรงอันใหญ่โต ทางเดินอันกว้างขวางและกำแพงยาวเหยียด เรากลับพบว่าห้องพักแต่ละห้องภายในอาคารส่วนที่พักอาศัยนั้น ช่างกระจ้อยร่อย ไม่ว่าจะเป็นห้องบรรทมของจักรพรรดิ หรือห้องบรรทมของพระนางซูสีไทเฮาผู้โด่งดัง ก็ล้วนแต่ดูสมถะไม่หรูหราใหญ่โตอย่างที่น่าจะเป็นเลย

อีกทั้งว่ากันว่าของตกแต่งอันหรูหรามีราคาหลายอย่าง ได้ถูกยักย้ายถ่ายเทไปจากพระราชวังแห่งนี้ ในช่วงเวลาแห่งความวุ่นวายในประวัติศาสตร์จีน การตกแต่งภายในบางส่วน จึงไม่ดูอลังการงานสร้างเทียบเท่ากับตัวสถาปัตยกรรม แต่ด้วยร่องรอยแห่งอดีตที่อวลอายอยู่ทุกตารางนิ้วบน ดินแดนต้องห้าม แห่งนี้ ก็คงมากมายเกินพอแล้วสำหรับการแวะมาเที่ยวชม

สถาปัตยกรรมสุดล้ำ

ถ้าพระราชวังต้องห้ามเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของอดีตแห่งปักกิ่ง สนามกีฬาแห่งชาติ หรือ สนามรังนก ที่เรียกกันลักษณะของสถาปัตยกรรม ที่ถูก สร้างขึ้นมาเพื่อรองรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเมื่อสองปีก่อน ก็คงถือได้ว่าเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของปักกิ่งยุคใหม่

เพราะฉะนั้น ถ้าอยากได้ชื่อว่า ถึง ปักกิ่งแล้วจริง ๆ ก็ต้องแวะมาชม ความล้ำสมัยของสนามกีฬาแห่งนี้กันด้วย รวมถึงอาคารที่ใช้แข่งกีฬาทางน้ำหรือ Water Cube อันแสนทันสมัย และในบริเวณเดียวกันนี้ ยังมีตึกใหม่ในย่านนี้สองตึกที่ถือเป็นสถาปัตยกรรมร่วมสมัย อันโดดเด่นของปักกิ่งนั่นก็คือ อาคารสถานีโทรทัศน์ CCTV และ World Trade Center Tower III อีกด้วย

ตื่นตาตื่นใจกันจนอาจลืมไปเลยก็ได้ว่า ปักกิ่งเป็นเมื่องเก่าแก่อายหลายร้อยปี และเราก็เพิ่งย่างเท้าออกมาจากอดีตที่พระราชวังต้องห้ามกันหยก ๆ

เวลา...ที่ปักกิ่งดูจะซ้อนเหลื่อมกันเพียงแค่กะพริบตาเท่านั้นเอง

Fast Facts

สนามบินปักกิ่ง (Beijing Capital International Airport) อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ห่างจากใจกลางเมืองราว 26 กิโลเมตร สามารถเดินทางเข้าเมืองได้ด้วยรถไฟใช้เวลาราว 20 นาที ค่าโดยสาร 25 หยวน หรือวิธีทีถูกกว่าก็คือการใช้รถเมล์ที่มีหลายสายเข้าสู่ย่านต่าง ๆ ในเมือง ค่าโดยสารเที่ยวเดียว 16 หยวน

รถไฟใต้ดินในปักกิ่ง เป็นวิธีที่รวดเร็วและสะดวกสบายในการท่องเที่ยว เพราะมีป้ายบอกทางต่าง ๆ เป็นภาษาอังกฤษอย่างชัดเจน มีทั้งหมด 9 สาย เปิดตีห้าถึงเที่ยงคืน สายที่เป็นประโยชน์ที่สุดคือสาย 1 ที่วิ่งจากตะวันออกไปตะวันตก และผ่านจตุรัสเทียนอันเหมิน และสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง สาย 2 เป็นสายวงแหวน ตามแนวกำแพงเมืองโบราณ สาย 5 ที่วิ่งจากเหนือไปใต้และผ่านจุดเที่ยวชมหลายแห่งเช่นกัน สัญลักษณ์ของสถานีรถไฟใต้ดินที่ปักกิ่ง เป็นป้ายสีน้ำเงินมีตัวหนังสือตัว G ตัวใหญ่และตัว B ตัวเล็ก ค่าตั๋วเที่ยวเดียว 2 หยวน

รถประจำทาง มีหลายสายครอบคลุมทุกเส้นทาง ค่าโดยสารจะเริ่มต้นที่ 1 หยวนขึ้นอยู่กับระยะทาง

รถแท็กซี่ เริ่มต้นค่าโดยสาร 10 หยวน และเพิ่มกิโลเมตรละ 2 หยวน

พระราชวังต้องห้าม เปิด 08.30-15.30 น. ในช่วงตุลาคม-เมษายน และ 08.30-16.00 น. ในเดือนพฤษภาคม-กันยายน

ถนนหวังฟูจิงเป็น Shopping Street สายสำคัญของปักกิ่ง เต็มไปด้วย ศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่มากมาย แต่ถ้าอยากได้บรรยากาศการช้อปปิ้งแบบเก่าๆ ลองแวะไปที่ย่าน Hutong ซึ่งเป็นย่านเก่าของปักกิ่ง บ้านเรือนในละแวกนี้ยังเป็นตึกเก่า ๆ แบบดั้งเดิมที่ยังมีประชาชนอาศัยอยู่ แต่หลายแห่งถูกเปลี่ยนเป็นร้านค้าจำหน่ายของที่ระลึก ร้านอาหาร บาร์ และโรงแรมสำหรับนักท่องเที่ยวแบบแบ็กแพ็ก

ที่มา กระปุก.คอม  

แสนดีเจริญรุ่งเรือง


2011-04-13 01:40:28 183.89.159.***
stat : 690 posts , 0 replys
 

คำตอบ
 
ข้อความ
รูปแบบพิเศษ ย่อหน้า ตัวหนา ตัวยก ตัวห้อย ตัวหนังสือเรืองแสง ตัวหนังสือมีเงา ตัวเอียง เส้นใต้ สีแดง สีเขียว สีน้ำเงิน สีส้ม สีชมพู สีเทา แทรกรูปจาก internet แทรกไฟล์ youtub vdo
Emotions
ชื่อ
email
ซ่อน E-Mail
.
สมัครสมาชิก Click ที่นี่ | เข้าสู่ระบบ Click ที่นี่




User :
Pass :
ลืมรหัสผ่าน

 
 
 
© Copyright 2010 WWW.MEEMARKET.COM All Rights Reserved.