กระเป๋าสานจากผักตบชวาเป็นสินค้า O – TOP ของดีจากกลุ่มจักสานผักตบชวาบ้านบางแผ่นจังหวัดอ่างทอง 19หมู่ 1 ตำบลคลองวัว อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง ส่วนใหญ่เป็นกระเป๋า ตะกร้า และที่เลือกกระเป๋าสานจากผักตบชวาส่งออกต่างประเทศเพราะ กระเป๋านั้นได้ทำมาจากงานหัตถกรรมด้วยฝีมือของคนไทยและจากภูมิปัญญาท้องถิ่น มีคุณค่า มีต้นทุนต่ำ มีรูปแบบลวดลายที่สวยงามและได้รับความสนใจจากคนทั่วไปไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือคนต่างชาติก็ตาม ทำให้คนต่างชาติมาเห็นก็ชอบทำให้ซื้อกับไปและได้รับความนิยมถ้าเราสามารถนำกระเป๋าสานจากผักตบชวา ส่งไปขายต่างประเทศก็น่าจะทำรายได้ได้ดีและเป็นการทำให้ชาวต่างชาติได้รู้ว่ากระเป๋านำเข้ามาจากประเทศไทย และน่าจะเป็นสินค้าที่น่าจะได้รับความนิยม เป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพราะกระเป๋าสานจากผักตบชวาใช่วัสดุที่นำมาผลิตส่วนใหญ่ก็มาจากธรรมชาติและไม่กระทบกับสิ่งแวดล้อมและไม่ทำให้โลกร้อน ที่สำคัญกระเป๋าสานจากผักตบชวามีความคงทนแข็งแรง ใช้งานได้นาน สอดคล้องกับการใช้ประโยชน์ได้เป็นอย่างดี
เหตุผลที่เลือกกระเป๋าสานจากผักตบชวาส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่น
เพราะ สินค้าของเรานั้นเป็นสินค้าจากภูมิปัญญาท้องถิ่นจากประเทศไทยและคนที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นประเทศที่มีรสนิยมเป็นของตัวเองถ้าเราเลือกที่จะส่งออกกระเป๋าไปขายที่ประเทศนั้นทำให้เขามีทางเลือกที่จะเปลี่ยนใจมาสนใจสินค้าของเราและเมื่อเขาหันมาสนใจแล้วทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นและมีรายได้เพิ่มขึ้นมากเนื่องจากกระเป๋าสานจากผักตบชวานั้นมีต้นทุนที่ต่ำมาก
ขั้นตอนวิธีทำกระเป๋าผักตบชวา
1.เก็บผักตบชวามาตากแดดไว้ก่อน ที่ตากสำหรับที่นี่ก็คือกระบอกไม้ไผ่นั่นเองค่ะอ โดยโดยชาวบ้านที่นี่จะปักไม้ไผ่ห่างจากรั้วประมาณ 1 ศอกเป็นเสารับ แล้วหาไม้กระบอกมาทำคาน ใช้ไม้กระบอกมาพาดอีก 2 อัน ผูกมัดด้วยตอกแข็งแรง จึงนำผักตบมาวางพาดตากแดดให้แห้ง ได้แดดแรงๆสัก 2 วันก็แห้งสนิทคับ
2.เมื่อแห้งดีแล้วก็นำมาเข้าเครื่องรีด เครื่องรีดนี่ไม่ใช่เตารีดที่รีดด้วยความร้อนนะคะแต่เป็นการรีดให้แบนเรียบสะดวกต่อการสาน เครื่องรีดมีลักษณะคล้ายเครื่องบดปลาหมึก หรือเครื่องบีบอ้อยเวลาจะคั้นเอาน้ำหวานนั่นแหละคะ เครื่องรีดทำด้วยไม้กลึงกลม เอาก้านผักตบใส่ใช้มือหมุน ดึงก้านผักตบจากเครื่องมา ก้านผักตบก็แบนเรียบคับ
3.นำมาตัดเป็นขนาดเล็กใหญ่เท่าๆกัน มัดเป็นกองไว้เตรียมเพื่อนำไปสานเป็นตะกร้า กระเป๋าต่อไป
4.ตอนสาน ช่างส่วนใหญ่เขามีหุ่นกระเป๋าเป็นไม้เนื้ออ่อนทำเป็นโครง วิธีสานนั้นสานลายขัดสลับกันธรรมดาๆ แต่ดูสวย เส้นผักตบที่แห้งนั้นมีสีสวยตามธรรมชาติอยู่แล้ว ช่างสานมีการเว้นเส้นลายเป็นลวดลายโปร่งสลับสองแถวเพื่อความเก๋ ส่วนหูใช้วิธีถักเป็นเปียแบนๆทำเป็นหูหิ้วมีความยาวพอเหมาะกำลังดี
วิธีป้องกันเชื้อราจากกระเป๋าผักตบชวา
ผลิตภัณฑ์ผักตบชวา เช่น ตะกร้า กระเป๋า หมวก รองเท้า เป็นต้น เป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนที่มีปัญหาเกี่ยวกับการเกิดเชื้อรา เมื่ออยู่ในสภาวะอากาศชื้น สำหรับวิธีที่กลุ่มผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ผักตบชวาใช้ในการป้องกันการเกิดเชื้อรา คือ การอบก้านผักตบชวาแห้งด้วยกำมะถัน ซึ่งมีวิธีการคือ นำก้านผักตบชวาแห้งใส่ในภาชนะเช่น ตู้ไม้ โอ่งน้ำ เป็นต้น แล้วเทผงกำมะถันลงบนถ่านที่ติดไฟที่วางอยู่ด้านล่างของภาชนะ จากนั้นปิด
ภาชนะให้สนิท ทิ้งไว้เป็นเวลา 1-2 วัน ก็นำก้านผักตบชวาแห้งมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ แล้วทาผลิตภัณฑ์ด้วยแลกเกอร์หรือนำมาอบกำมะถันอีกครั้ง แล้วทาด้วยแลกเกอร์ก็ได้ แต่วิธีการดังกล่าวสามารถป้องกันการเกิดเชื้อราได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น เมื่ออากาศชื้น เชื้อราก็สามารถเจริญเติบโตได้อีก นอกจากนี้การเผากำมะถันในกระบวนการอบด้วยกำมะถันยังทำให้เกิดก๊าซพิษและฝน กรดที่ทำลายสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
กรมวิทยาศาสตร์บริการ โดยสำนักเทคโนโลยีชุมชน ได้ศึกษาวิจัยหาวิธีป้องกันการเกิด เชื้อราในผลิตภัณฑ์ผักตบชวาที่ป้องกันการเกิดเชื้อราได้เป็นเวลานาน ปลอดภัยต่อคนและสิ่งแวดล้อม วิธีการไม่ยุ่งยาก ได้เป็นผลสำเร็จและได้รับการจดอนุสิทธิบัตรเรียบร้อยแล้ว โดยนำก้านผักตบชวาแช่ลงในสารละลายโซเดียมเบนโซเอต ที่มีความเข้มข้นและระยะเวลาการแช่ที่เหมาะสม แล้วนำก้านผักตบชวาไปผึ่งลมให้แห้งสนิท จึงนำไปจักสานเป็นผลิตภัณฑ์รูปแบบต่าง ๆต่อไป
กรมวิทยาศาสตร์ฯได้ทำการถ่ายทอดเทคโนโลยี “การป้องกันการเกิดเชื้อราในผลิตภัณฑ์ผักตบชวา” ให้แก่กลุ่มผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ผักตบชวาตั้งแต่ปี 2546 – ปัจจุบัน ในทุกภาคของประเทศ เช่น พะเยา สุพรรณบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา อุตรดิตถ์ พิจิตร สุราษฎร์ธานี นครราชสีมา นนทบุรี เป็นต้น รวม 43 กลุ่ม จำนวนผู้เข้ารับการฝึกอบรมโดยตรง 1,235 คน นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดวิทยากรในท้องถิ่น (training for the trainer) เป็นเครือข่ายถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับ วศ.อย่างต่อเนื่อง
ประโยชน์
กลุ่มผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ผักตบชวาใช้เทคโนโลยีการป้องกันการเกิดเชื้อราใน ผลิตภัณฑ์ผักตบชวาที่ได้รับการถ่ายทอดจากกรมวิทยาศาสตร์ฯไปพัฒนาคุณภาพของ ผลิตภัณฑ์ให้ปราศจากปัญหาจากเชื้อรา ทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจในคุณภาพของสินค้า ส่งผลให้กลุ่มผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ผักตบชวาสามารถประกอบอาชีพได้อย่างยั่งยืน
เทคโนโลยีการป้องกันการเกิดเชื้อรา ของกรมวิทยาศาสตร์บริการ คุณสมบัติ
- เทคโนโลยีสะอาด ไม่เป็นพิษกับสิ่งแวดล้อม ไม่มีผลเสียต่อสุขภาพ
- ขั้นตอนปฏิบัติไม่ยุ่งยาก
- ค่าใช้จ่ายน้อย
- ผ่านการวิจัยและได้รับการจดอนุสิทธิบัตรแล้ว
- ป้องกันการเกิดเชื้อราได้นานเกิน 9 เดือน ที่ภาวะ ความชื้นมากกว่า 80 % (ฉีดพ่นน้ำทุกวัน) ในขณะที่วิธีอบด้วยกำมะถันที่ภาวะเดียวกัน 5 วัน ก็เกิดเชื้อราแล้ว
ขั้นตอนการทำงาน
1. นำก้านผักตบชวาแห้งมาตัดแต่ง
2. ชั่งก้านผักตบชวาแห้งน.น. 1 กก. หรือประมาณ 300 ก้าน
3. ตักน้ำใส่กะละมังเพื่อใช้ล้างก้านผักตบชวาให้สะอาดเพื่อกำจัดสิ่งสกปรกที่เป็นอาหารของเชื้อรา
4. นำก้านผักตบชวาแห้งลงล้างให้สะอาด
5. ทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำ
6. นำก้านผักตบชวาลงแช่ในสารละลายของโซเดียมเบนโซเอต ความเข้มข้นร้อยละ 3-5
7. ใช้ตะแกรงไม้ไผ่และถุงพลาสติกใส่น้ำวางทับเพื่อให้ก้านผักตบ จมลงในน้ำยากันเชื้อรา
8. ตั้งทิ้งไว้ไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง ระหว่างการแช่ควรกลับผักตบชวาเพื่อให้ผักตบชวาสัมผัสสารละลายอย่างทั่วถึง
9. นำก้านผักตบชวาขึ้นตาก ในที่ร่มจนก้านผักตบชวาแห้งสนิท โดยไม่ต้องล้างน้ำ
10. ก้านผักตบชวาแห้งที่ผ่านการป้องกันเชื้อราแล้ว
11. นำก้านผักตบชวามาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ผักตบชวา โดยฉีดพ่นสารกันเชื้อราเจือจางไปด้วย
|